แหล่งข่าว : ชิงดำรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน “ซีพี” พร้อม!จับมือโขยงพันธมิตรทั่วโลก
https://www.thairath.co.th/content/1418695
รฟท.เปิดซองรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–ระยอง” วันนี้ (12 พ.ย.) คาดเดือน ธ.ค.นี้ รู้ว่าใครเข้าวิน ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติ และลงนามในสัญญาภายในเดือน ม.ค.2562 ขณะที่ “ซีพี” ผนึกโขยงพันธมิตร ลุยเต็มสูบ
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (12 พ.ย.) รฟท.มีความพร้อม 100% ที่จะเปิดรับซองประมูลจากเอกชน ที่สนใจร่วมดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-ระยอง และการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ วงเงิน 224,544 ล้านบาท ซึ่งตามขั้นตอน ภายในเดือน ธ.ค.2561 รฟท.จะทราบผลว่าเอกชนรายใดเป็นผู้ชนะประมูล และในเดือน ม.ค.-ก.พ.2562 จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติและลงนามในสัญญา ซึ่งตามสัญญาผู้ชนะการประมูลจะได้รับสัมปทานเป็นระยะเวลา 50 ปี ประกอบด้วยระยะเวลาการออกแบบและก่อสร้าง 5 ปี และระยะเวลาการดำเนินการ 45 ปี
“รฟท. เตรียมพนักงานจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องมาต้อนรับ การรับซอง การยื่นเอกสาร และการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ทั้งหมดเกือบ 100 คนมาคอยประสานงานในการรับเอกสารประมูลครั้งนี้”
สำหรับการเปิดรับข้อเสนอในวันที่ 12 พ.ย.นี้ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น. โดยเอกชนจะยื่นเอกสารเปิดผนึก 1 ชุด พร้อมข้อเสนอทั้งหมด 4 ซอง ประกอบไปด้วย ส่วน 1.ข้อเสนอทั่วไปหรือคุณสมบัติ โดยเอกชนต้องผ่านข้อเสนอซองที่ 1 ก่อน จึงได้เปิดข้อเสนอซองที่ 2 ส่วนที่ 2.ข้อเสนอด้านเทคนิค ซึ่งรวมถึงการแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โดยเอกชนต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของข้อเสนอซองที่ 2 ก่อน จึงได้เปิดข้อเสนอซองที่ 3 ส่วนข้อ 3.ข้อเสนอด้านราคา เอกชนที่ขอรับเงินอุดหนุนในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจากรัฐบาลน้อยที่สุด จากวงเงินเต็ม 119,000 ล้านบาทจะเป็นผู้ชนะการประมูล ด้านการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์จะเป็นไปตามราคาที่กำหนดไว้ ไม่มียื่นข้อเสนอหรือต่อรองแต่อย่างใด, ส่วนข้อ 4.เป็นข้อเสนอด้านอื่นๆ ไม่มีผลกระทบต่อการแพ้-ชนะในการประมูล
ด้านนายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข รองประธานสำนักพัฒนาโครงการพิเศษ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์และพันธมิตรที่ได้รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า หรือ Consortium พร้อมที่จะเข้ายื่นซองโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในวันจันทร์ที่ 12 พ.ย.นี้ โดยมีพันธมิตรทั้งจากประเทศไทยและนานาประเทศร่วมผนึกกำลัง ซึ่งหลังจากยื่นซองประมูลแล้วขอประกาศว่าจะไม่มีการให้ข่าวโดยเข้าสู่ช่วง Silence Period ตามมารยาทการแข่งขันและธรรมาภิบาลที่ดี
สำหรับบริษัทที่เป็นกิจการร่วมค้าและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (ไทย), China Railway Construction Corporation Limited (จีน), บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (ไทย), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (ไทย), บมจ. ช.การช่าง (ไทย), Japan Overseas Infrastruc– ture Investment Corporation for Trans– port & Urban Development (ญี่ปุ่น), CITIC Group Corporation (จีน), China Resources (Holdings) Company Limited (จีน), Siemen (เยอรมนี), Hyundai (เกาหลีใต้), Ferrovie dello Stato Italiane (อิตาลี), CRRC-Sifang (จีน) และธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ JBIC (ญี่ปุ่น) เป็นต้น
สำหรับผู้ที่เข้าประมูลครั้งนี้ คาดว่ามีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มซีพี ของตระกูลเจียรวนนท์ และกลุ่มบีเอสอาร์ ที่มีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ของนายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นแกนนำ ด้านบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศว่าจะร่วมลงทุนกับผู้ชนะการประมูลเท่านั้น.
ชิงดำรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน “ซีพี” พร้อม!จับมือโขยงพันธมิตรทั่วโลก (สัมปทาน 50 ปี)!!!
https://www.thairath.co.th/content/1418695
รฟท.เปิดซองรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง–สุวรรณภูมิ–ระยอง” วันนี้ (12 พ.ย.) คาดเดือน ธ.ค.นี้ รู้ว่าใครเข้าวิน ก่อนเสนอ ครม.อนุมัติ และลงนามในสัญญาภายในเดือน ม.ค.2562 ขณะที่ “ซีพี” ผนึกโขยงพันธมิตร ลุยเต็มสูบ
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (12 พ.ย.) รฟท.มีความพร้อม 100% ที่จะเปิดรับซองประมูลจากเอกชน ที่สนใจร่วมดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-ระยอง และการพัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ วงเงิน 224,544 ล้านบาท ซึ่งตามขั้นตอน ภายในเดือน ธ.ค.2561 รฟท.จะทราบผลว่าเอกชนรายใดเป็นผู้ชนะประมูล และในเดือน ม.ค.-ก.พ.2562 จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติและลงนามในสัญญา ซึ่งตามสัญญาผู้ชนะการประมูลจะได้รับสัมปทานเป็นระยะเวลา 50 ปี ประกอบด้วยระยะเวลาการออกแบบและก่อสร้าง 5 ปี และระยะเวลาการดำเนินการ 45 ปี
“รฟท. เตรียมพนักงานจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องมาต้อนรับ การรับซอง การยื่นเอกสาร และการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ทั้งหมดเกือบ 100 คนมาคอยประสานงานในการรับเอกสารประมูลครั้งนี้”
สำหรับการเปิดรับข้อเสนอในวันที่ 12 พ.ย.นี้ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น. โดยเอกชนจะยื่นเอกสารเปิดผนึก 1 ชุด พร้อมข้อเสนอทั้งหมด 4 ซอง ประกอบไปด้วย ส่วน 1.ข้อเสนอทั่วไปหรือคุณสมบัติ โดยเอกชนต้องผ่านข้อเสนอซองที่ 1 ก่อน จึงได้เปิดข้อเสนอซองที่ 2 ส่วนที่ 2.ข้อเสนอด้านเทคนิค ซึ่งรวมถึงการแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ โดยเอกชนต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของข้อเสนอซองที่ 2 ก่อน จึงได้เปิดข้อเสนอซองที่ 3 ส่วนข้อ 3.ข้อเสนอด้านราคา เอกชนที่ขอรับเงินอุดหนุนในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจากรัฐบาลน้อยที่สุด จากวงเงินเต็ม 119,000 ล้านบาทจะเป็นผู้ชนะการประมูล ด้านการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์จะเป็นไปตามราคาที่กำหนดไว้ ไม่มียื่นข้อเสนอหรือต่อรองแต่อย่างใด, ส่วนข้อ 4.เป็นข้อเสนอด้านอื่นๆ ไม่มีผลกระทบต่อการแพ้-ชนะในการประมูล
ด้านนายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข รองประธานสำนักพัฒนาโครงการพิเศษ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์และพันธมิตรที่ได้รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า หรือ Consortium พร้อมที่จะเข้ายื่นซองโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในวันจันทร์ที่ 12 พ.ย.นี้ โดยมีพันธมิตรทั้งจากประเทศไทยและนานาประเทศร่วมผนึกกำลัง ซึ่งหลังจากยื่นซองประมูลแล้วขอประกาศว่าจะไม่มีการให้ข่าวโดยเข้าสู่ช่วง Silence Period ตามมารยาทการแข่งขันและธรรมาภิบาลที่ดี
สำหรับบริษัทที่เป็นกิจการร่วมค้าและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (ไทย), China Railway Construction Corporation Limited (จีน), บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (ไทย), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (ไทย), บมจ. ช.การช่าง (ไทย), Japan Overseas Infrastruc– ture Investment Corporation for Trans– port & Urban Development (ญี่ปุ่น), CITIC Group Corporation (จีน), China Resources (Holdings) Company Limited (จีน), Siemen (เยอรมนี), Hyundai (เกาหลีใต้), Ferrovie dello Stato Italiane (อิตาลี), CRRC-Sifang (จีน) และธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ JBIC (ญี่ปุ่น) เป็นต้น
สำหรับผู้ที่เข้าประมูลครั้งนี้ คาดว่ามีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มซีพี ของตระกูลเจียรวนนท์ และกลุ่มบีเอสอาร์ ที่มีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ของนายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นแกนนำ ด้านบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศว่าจะร่วมลงทุนกับผู้ชนะการประมูลเท่านั้น.